ตีแผ่...เทคนิคการสอบ TOEFL Reading ค่ะ



เรียบเรียงโดย : ผกากรอง ปากคลองตลาด


เทคนิคการสอบ
TOEFL Reading ในการสอบ TOEFL อาจจะได้สอบ 3 หรือไม่ก็ 5 เรื่อง โดยแต่ละเรื่องของสอบ TOEFL จะต้องทำอ่านและตอบคำตอบประมาณ 12-14 ข้อ โดยจะต้องทำสอบ TOEFL ให้เสร็จต่อเรื่องภายใน 20 นาที ดังนั้น หากเฉลี่ยเวลาแล้วจะต้องอ่านเรื่องให้เสร็จภายใน 5 นาทีและตอบคำถามของข้อสอบ TOEFL เฉลี่ยข้อละ 1 นาที


ในวันสอบ
TOEFL จริงบางครั้งเวลาอาจจะตั้งมาให้ 40 นาทีแต่ให้ทำ 2 เรื่อง ซึ่งข้อดี คือ หน้าจอจะไม่ตัดไปทันทีเมื่อเวลาเกิน 20 นาที แต่ถ้าให้เรื่องละ 20 นาที หากทำไม่เสร็จหน้าจอจะตัดทันที ข้อดีของ TOEFL ในส่วนของ TOEFL Reading คือ มีคำถาม Vocabulary ซึ่งส่วนใหญ่แล้วค่อนข้างจะง่ายถ้ารู้คำศัพท์แล้วจะตอบได้เลย ไม่ต้องคิดมาก ซึ่งส่วนใหญ่ต่อเรื่องจะมี 1-2 ข้อ ก็จะทำให้การประหยัดเวลาและเพิ่มเวลาในการทำข้อสอบ TOEFL ข้ออื่นได้มากขึ้น
           
การฝึกอ่านข้อสอบ TOEFL แบบเร็วจะช่วยทำให้ประหยัดเวลาในการอ่านได้มากขึ้น โดยปกติในช่วงเวลาการสอบ TOEFL หน้าจอคอมพิวเตอร์จะไม่ถามคำถามจนกว่าเราจะเลื่อน Scroll ลงมาจนสุด (เหมือนว่าอ่านจบแล้ว) จึงกด Next ได้ ดังนั้น บางคนจะเลื่อนลงมาเลยแล้วกด Next เพื่อที่จะได้ดูคำถาม ซึ่งทำให้เริ่มทำได้เลยและประหยัดเวลา ข้อเสียของการทำลักษณะนี้ คือ ทำให้เราไม่ได้อ่านทัง passage และจะทำข้อสอบ TOEFL ข้อสุดท้ายได้ยาก เพราะเป็นการถามทั้ง passage แต่ประหยัดเวลาได้จริงๆ สำหรับวิธีนี้ค่ะ 

อีกวิธีหนึ่งคือ
Skimming reading ค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะต้องใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที ทำให้เห็นภาพใหญ่ของเนื้อเรื่อง จากนั้นก็เข้าไปตอบค่ะ ข้อดีอีกอันหนึ่งคือ TOEFL เวลาถามคำถามจะถามเป็น Paragraph ไม่ถาม whole passage เท่าไหร่ ถ้าเทียบสัดส่วนแล้ว ส่วนใหญ่จะถามข้อสุดท้าย และทุกครั้ง computer จะมีลูกศร paragraph อ่านเฉพาะย่อหน้านั้น ๆ ก็มีคำตอบ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาหาคำตอบมาก

อีกเรื่องหนึ่งคำถามของ
TOEFL ในส่วนของ TOEFL Reading จะมี Pattern เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Vocabulary, Reference, Inference, Paraphrase, Fact, Drag and Drop (ข้อสุดท้าย) ซึ่งทำให้เดาได้ว่าจะต้องเจอคำถาม TOEFL แบบไหนได้ค่ะ

เคล็ดลับการเตรียมตัวสอบ TOEFL ที่อยากจะบอกคร้าาา



เรียบเรียงโดย : ผกากรอง ปากคลองตลาด

บทความนี้เป็นบทความที่ผกากรองต้องการจะแบ่งปันเทคนิคการทำข้อสอบ TOEFL จากผู้ที่มีประสบการณ์ซึ่งได้คะแนน TOEFL สูงๆ ค่ะ เทคนิคการสอบ TOEFL หรือกลยุทธ์ที่ใช้สอบ TOEFL อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับทุก ๆ คนนะค่ะ ถ้าน้องๆ เห็นว่าเทคนิคการทำข้อสอบ TOEFL ส่วนไหนมีประโยชน์ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ตามเหมาะสมนะค่ะ



ก่อนอื่นผกากรองขอทบทวนถึงโครงสร้างข้อสอบ TOEFL iBT ก่อนนะค่ะ ซึ่งข้อสอบ TOEFL จะแบ่งเป็น 4 ส่วน โดยเริ่มจาก TOEFL Reading, TOEFL Listening, TOEFL Speaking และ TOEFL Writing ตามลำดับ สัดส่วนคะแนน TOEFL จะแบ่งเป็นส่วนละ 30 คะแนน (TOEFL Reading 30, TOEFL Listening 30, TOEFL Speaking 30 and TOEFL Writing 30) รวมทั้งหมด 120 คะแนนค่ะ


ขั้นที่ 1 การวางแผนและทำตารางอ่านหนังสือ TOEFL และจะต้องสมัครสอบ TOEFL ตอนวางแผนเลยค่ะ เพื่อเป็นการวางเป้าหมายที่จะต้องสอบ TOEFL ค่ะ


ขั้นที 2 การแบ่งเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมงต่อวัน ในการอ่านหนังสือ TOEFL เนื่องจากแต่ละ Part ของการสอบ TOEFLจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงค่ะ ตรงนี้แล้วแต่ความสะดวกและความสามารถพื้นฐานของแต่ละบุคคลนะค่ะ

ขั้นที่
3 การตรวจสอบตนเองโดยการทำข้อสอบ TOEFL เพื่อประเมินตนเองก่อนว่าได้คะแนน TOEFL ระดับเท่าไหร่ ส่วนของ TOEFL Speaking และ TOEFL Writing ไม่สามารถทราบคะแนน TOEFL ได้ ก็จะต้องทำเพื่อวัดแรงกดดันว่าสามารถพูดและเขียนได้หรือไม่ อย่างไรก็ดีทุกอย่างต้องมีการจับเวลานะค่ะ

ขั้นที่
4 หลังจากผ่านการประเมินแล้วคะแนน TOEFL ที่ออกมาจาก Part TOEFL Reading and TOEFL Listening จะบอกคร่าว ๆ ว่าเราอยู่ระดับใดได้ ในส่วนของ TOEFL Speaking and TOEFL Writing หากเป็นไปได้หาผู้รู้ลองประเมิน โดยในส่วนของ TOEFL Speaking อาจอัดเสียงแล้วให้ผู้รู้ฟังดูนะค่ะ

ขั้นที่
5 การเตรียมตัวสอบ TOEFL โดยปกติแล้วการเตรียมสอบ TOEFL จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน นานกว่านั้น    จะทำให้เราเบื่อในการอ่านหนังสือ TOEFL ได้ค่ะ การผ่านคะแนน 79 iBT-Based เป็นเรื่องไม่ยากสำหรับการเตรียมตัว TOEFL 2 เดือนค่ะ หากตั้งใจและมีวินัยตามแผนการสอบ TOEFL ที่เราวางไว้ในการอ่านหนังสือ TOEFL แต่สำหรับการก้าวข้ามคะแนน TOEFL เป็น 100 iBT-Based จะต้องใช้ความพยายามอีกนิดหน่อยเนื่องจากว่าคนไทยพูดไม่เก่ง ทำให้คะแนนส่วนของ TOEFL Speaking เป็นส่วนที่ทำให้คะแนน TOEFL น้อยค่ะ

Update ล่าสุด!!! ตารางสอบ TOEFL, วันสอบ TOEFL, และ ศูนย์สอบ TOEFL ค่ะ



เรียบเรียงโดย : ผกากรอง ปากคลองตลาด

ด้านล่างเป็นข้อมูลศูนย์สอบ TOEFL ในประเทศไทยและวันที่เปิดทำการสอบ TOEFL ในปี 2013 นะค่ะ 


ศูนย์สอบ TOEFL 
Bangkok เปิดทำการสอบ TOEFL ในวันที่ด้านล่างค่ะ

Sun., Feb 03, 2013
Sat., Feb 16, 2013
Sun., Feb 24, 2013
Sat., Mar 02, 2013
Sat., Mar 16, 2013
Sun., Mar 24, 2013
Sat., Mar 30, 2013
Sun., Apr 14, 2013
Sat., Apr 20, 2013

ศูนย์สอบ TOEFL Chiang Mai เปิดทำการสอบ TOEFL ในวันที่ด้านล่างค่ะ
Sun., Feb 03, 2013
Sat., Feb 16, 2013
Sat., Mar 02, 2013
Sat., Mar 16, 2013
Sun., Mar 24, 2013
Sat., Mar 30, 2013
Sat., Apr 20, 2013

ศูนย์สอบ TOEFL Hat Yai เปิดทำการสอบ TOEFL ในวันที่ด้านล่างค่ะ
Sun., Feb 24, 2013
Sat., Mar 16, 2013
Sat., Apr 20, 2013

ศูนย์สอบ TOEFL Khon Kaen เปิดทำการสอบ TOEFL ในวันที่ด้านล่างค่ะ
Sat., Feb 16, 2013
Sat., Mar 30, 2013
Sat., Apr 20, 2013

ศูนย์สอบ TOEFL Ladkrabang เปิดทำการสอบ TOEFL ในวันที่ด้านล่างค่ะ
Sun., Feb 03, 2013
Sat., Feb 16, 2013
Sun., Feb 24, 2013
Sat., Mar 02, 2013
Sat., Mar 16, 2013
Sun., Mar 24, 2013
Sat., Mar 30, 2013
Sun., Apr 14, 2013
Sat., Apr 20, 2013

ศูนย์สอบ TOEFL Koh Samui เปิดทำการสอบ TOEFL ในวันที่ด้านล่างค่ะ
Sun., Feb 03, 2013
Sun., Mar 24, 2013
Sun., Apr 14, 2013

ศูนย์สอบ TOEFL Pattaya เปิดทำการสอบ TOEFL ในวันที่ด้านล่างค่ะ
Sun., Feb 03, 2013
Sat., Feb 16, 2013
Sun., Feb 24, 2013
Sat., Mar 02, 2013
Sat., Mar 16, 2013
Sun., Mar 24, 2013
Sat., Mar 30, 2013
Sat., Apr 20, 2013

ศูนย์สอบ TOEFL Ratchathewi เปิดทำการสอบ TOEFL ในวันที่ด้านล่างค่ะ
Sat., Feb 16, 2013
Sun., Feb 24, 2013
Sat., Mar 02, 2013
Sat., Mar 16, 2013
Sun., Mar 24, 2013
Sat., Mar 30, 2013
Sun., Apr 14, 2013
Sat., Apr 20, 2013

ศูนย์สอบ TOEFL Saraburi เปิดทำการสอบ TOEFL ในวันที่ด้านล่างค่ะ
Sun., Feb 03, 2013
Sun., Feb 24, 2013
Sun., Mar 24, 2013

จองวันสอบ TOEFL ง่ายนิดเดียวค่ะ



เรียบเรียงโดย : ผกากรอง ปากคลองตลาด

ในส่วนนี้จะพูดถึงการสมัคร TOEFL และจองวันสอบ TOEFL รวมถึงการชำระเงิน TOEFL ผ่านทางเว็บไซต์ http://www.ets.org/toefl สำหรับผู้ที่มี Username และ Password แล้วเท่านั้น หากยังเคยลงทะเบียนกับ ETS มาก่อนสามารถดูขั้นตอนการสมัครขอ Username และ Password ได้ที่นี่ค่ะ



 1. เข้าสู่เว็บไซต์ http://www.ets.org/toefl แล้วใส่ Username และ Password ที่เราได้สร้างขึ้นไว้ก่อนหน้านี้ค่ะ แล้วกดปุ่ม Go (หากจำ Username หรือ Password ไม่ได้ ให้กดที่ปุ่ม User Name Assistance หรือ Password Assistance ค่ะ)



2. ที่แถบเมนูด้านซ้ายในหัวข้อ Test Registration and Orders คลิกเลือกที่ Register/Order ค่ะ



3. Select Product Type: คลิกเลือก TOEFL Test เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการสมัครสอบ TOEFL จากนั้นคลิกปุ่ม continue ค่ะ



4. Before You Begin ... จะอธิบายรายละเอียดขั้นตอนการสมัคร TOEFL คร่าวๆ ว่าผู้สอบ TOEFL จะต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง เมื่ออ่านจบแล้วคลิกปุ่ม I Agree ด้านล่างค่ะ


5. Register for a Test เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการสมัคร TOEFL ด้วยการค้นหาสถานที่ที่ต้องการสอบ TOEFL และวันเวลาที่สะดวกค่ะ

  • Country/Location: เลือก Thailand
  • Region: เลือก Bangkok (ปัจจุบันมีให้เลือกสอบ TOEFL 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ หาดใหญ่ สระบุรี เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี)
  • Select from available test dates: ค้นหาศูนย์สอบ TOEFL ตามช่วงวันและเวลาที่มีอยู่ในระบบ โดยสามารถค้นหาได้ภายในช่วงระยะเวลา 60 วันเท่านั้นค่ะ
  • Start Test Date: เลือกวันค้นหาเริ่มต้นที่เราต้องการสอบ TOEFL
  • End Test Date: เลือกวันสิ้นสุดการค้นหา (ไม่เกิน 60 วันนับจากวันเริ่มต้น)
  • คลิกปุ่ม Search เพื่อทำการค้นหาศูนย์สอบ TOEFL และวันเวลาสอบ TOEFL

6. Select a Test Center: ระบบจะแสดงรายชื่อศูนย์สอบ TOEFL และวันเวลาสอบ TOEFL ที่มีอยู่ในระบบให้เลือก หากไม่พบศูนย์สอบ TOEFL ที่ท่านต้องการสอบ TOEFL สามารถโทรศัพท์สอบถามไปที่ศูนย์สอบ TOEFL นั้นๆ ว่ายังมีที่นั่งสอบ TOEFL เหลืออยู่หรือไม่ (ในบางครั้งศูนย์สอบ TOEFL จะไม่ปรากฏอยู่ในระบบ แต่ท่านสามารถเลือกสอบ TOEFL ที่ศูนย์สอบ TOEFL ที่ต้องการได้ค่ะ โดยการลงทะเบียน TOEFL ทางโทรศัพท์ค่ะ) เมื่อพบศูนย์สอบ TOEFL ที่ต้องการแล้ว คลิกที่ชื่อศูนย์สอบ TOEFL ค่ะ



7. เมื่อเลือกศูนย์สอบ TOEFL ที่ต้องการแล้ว ระบบจะแสดงรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งเกี่ยวกับ วันและเวลาสอบ TOEFL รวมถึงที่อยู่ของศูนย์สอบ TOEFL เมื่อตรวจสอบข้อมูลครบถ้วนว่าถูกต้องแล้วคลิกปุ่ม continue ค่ะ



8. Score Reporting Preferences: ในขั้นตอนนี้ ระบบจะถามว่าผู้สอบ TOEFL ต้องการเลือกรับผลสอบ TOEFL ด้วยช่องทางใดบ้าง ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบคือ

  • ดูผลคะแนน TOEFL ผ่านทางเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว
  • ดูผลคะแนน TOEFL ผ่านทางเว็บไซต์และรับผลคะแนน TOEFL ทางไปรษณีย์ (ผู้สอบ TOEFL ส่วนใหญ่จะเลือกวิธีนี้ค่ะ)

เมื่อเลือกวิธีการรับผลสอบ TOEFL แล้ว คลิกปุ่ม continue ค่ะ



9. Select Score Recipients: เป็นขั้นตอนการเลือกสถานศึกษาที่ผู้สอบ TOEFL ต้องการให้ ETS ส่งผลสอบ TOEFL ไปให้ หลังจากที่เราสอบ TOEFL เสร็จ ซึ่งในขั้นตอนนี้จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ แต่ผู้สอบ TOEFL ส่วนใหญ่จะข้ามขั้นตอนนี้ (คลิกปุ่ม skip) เนื่องจากต้องการรอดูผลคะแนนสอบ TOEFL ก่อนว่าทำได้ตามเกณฑ์ที่ทางสถาบันการศึกษากำหนดไว้หรือไม่ เมื่อทราบผลคะแนนสอบ TOEFL ในภายหลังแล้ว ผู้สอบ TOEFL จึงสามารถทำการส่งผลคะแนนไปยังสถาบันการศึกษานั้นๆ เอง หรือเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์  http://www.ets.org/toefl แล้วเลือกคำสั่งให้ ETS ส่งผลคะแนน TOEFL ให้ ทั้งนี้จะมีค่าใช้จ่าย US$ 16.00 ต่อหนึ่งสถาบันค่ะ



10. Demographic Questions: ระบบจะให้ผู้สอบ TOEFL กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อการค้นคว้าและวิจัยของ ETS เอง ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้จะไม่มีผลกับการให้คะแนน TOEFL ใดๆ ทั้งสิ้น ผู้สอบ TOEFL สามารถเลือกที่จะกรอกข้อมูลในส่วนนี้หรือข้ามขั้นตอนนี้ไปเลยก็ได้ โดยคลิกปุ่ม continue ค่ะ




11. Order Summary: ตรวจสอบข้อมูลการสมัครสอบ TOEFL ในขั้นตอนสุดท้ายพร้อมแจ้งราคาค่าสมัครสอบ TOEFL  จากนั้นคลิก Confirm Order เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการชำระเงิน TOEFL ด้วยบัตรเครดิตค่ะ



12. Select Payment Method: ระบบจะให้เลือกวิธีการชำระเงิน TOEFL ซึ่งการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัย ผู้สอบ TOEFL ส่วนใหญ่นิยมชำระค่าสอบ TOEFL ผ่านทางวิธีนี้ค่ะ (สามารถใช้บัตรเครดิตของผู้ปกครองหรือเพื่อนได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตของตนเองค่ะ)



13. ในขั้นตอนนี้เป็นการชำระเงิน TOEFL โดยกรอกข้อมูลที่ออกใบเสร็จ ได้แก่ ชื่อ นามสกุล และที่อยู่ โดยคลิกที่ Use Primary Info เพื่อให้ระบบดึงข้อมูลของผู้สอบ TOEFL ที่ได้กรอกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่หากต้องการใช้ที่อยู่อื่น ให้กรอกข้อมูลในช่องว่าง จากนั้น ให้ผู้สอบ TOEFL ใส่ข้อมูลบัตรเครดิตลงไป ซึ่งในบางครั้ง ระบบจะให้ใส่รหัสผ่าน 6 หลักสำหรับการชำระแบบออนไลน์ (ส่วนใหญ่จะเป็นบัตรประเภท visa)



เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว คลิกปุ่ม Submit Payment เพื่อให้ระบบทำการตรวจสอบข้อมูลกับธนาคารและทำการชำระเงินแบบออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต (ทั้งนี้ หากผู้สอบ TOEFL พบข้อความ error ในขั้นตอนนี้ หรือระบบไม่แสดงผลในขั้นตอนต่อไปเป็นระยะเวลานาน แนะนำให้ผู้สอบ TOEFL ทดลองปิดระบบ antivirus หรือ firewall ให้หมดก่อน เนื่องจากในบางครั้ง โปรแกรมป้องกันความปลอดภัยเหล่านี้จะป้องกันการส่งผ่านข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ หรือหากไม่สามารถลงทะเบียนได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ผู้สอบ TOEFL ติดต่อกับศูนย์สอบ TOEFL นั้นๆ เพื่อขอความช่วยเหลือต่อไปค่ะ)

ลงทะเบียนสอบ TOEFL Online ง่าย ๆ แค่ คลิ๊ก คลิ๊ก คลิ๊กค่ะ




เรียบเรียงโดย : ผกากรอง ปากคลองตลาด

การลงทะเบียนสอบ TOEFL iBT นั้นมีหลายวิธีในการสมัครนะค่ะ ได้แก่ การสมัครผ่านโทรศัพท์ การสมัครด้วยการส่งแบบฟอร์มทางไปรษณีย์ และการสมัครผ่านเว็บไซต์ www.toefl.org ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวก ปลอดภัย และนิยมมากที่สุดค่ะ ปัจจุบันค่าสมัครสอบ TOEFL iBT มีมูลค่า US$ 160 เหรียญ และสามารถจ่ายผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เลยค่ะ ซึ่งวิธีการชำระค่าสมัครสอบ TOEFL จะมีข้อดีในเรื่องของความสะดวกและความปลอดภัย ต่างจากการชำระด้วยวิธีอื่นค่ะ
หมายเหตุ: ตัวอย่างการลงทะเบียนสอบ TOEFL iBT แบบออนไลน์ด้านล่างนี้ ยกตัวอย่างมาจากผู้ที่ถือพาสปอร์ตไทยและพำนักอยู่ในประเทศไทยนะค่ะ

ขั้นตอนการลงทะเบียนสอบ TOEFL มีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้นะค่ะ เริ่มกันเลยค่ะ

1. เข้าสู่เว็บไซต์ http://www.ets.org/toefl แล้วคลิ๊กที่ Register for the Test นะค่ะ



2.คลิ๊กที่ Register Online ค่ะ


3. สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสอบ TOEFL เป็นครั้งแรก จะต้องสร้าง Username และ Password ของ TOEFL ขึ้นมาก่อนนะค่ะ โดยคลิกที่ปุ่ม Sign Up ในกรอบ New User?



4. Contact Information: กรอกข้อมูลของตัวเองลงใสช่องต่างๆ โดยเฉพาะช่องที่มีเครื่องหมาย * สีแดง หมายถึงห้ามเว้นว่างในช่องนี้ค่ะ


5. Contact Preferences: Phone Numbers & E-mail ให้ใส่หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้สะดวกและใส่อีเมล์ที่ถูกต้องนะค่ะ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะโทรศัพท์หรืออีเมล์ข้อมูลต่างๆ ให้กับผู้สอบผ่านช่องทางนี้ เมื่อกรอกข้อมูลในส่วนนี้ครบถ้วนแล้ว คลิกปุ่ม Continue เลยค่ะ



6. กรอกหมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขพาสปอร์ต หมายเลขใบขับขี่ หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ลงในกรอบ International Residents พร้อมกับเลือก Country เป็น Thailand ค่ะ

7. Additional Background

  • Native Country: เลือก Thailand (สำหรับผู้ที่มีสัญชาติไทย)
  • Native Language: เลือก THAI (สำหรับผู้ที่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาหลัก)
  • Country of Citizenship: Thailand (สำหรับผู้ที่ถือพาสปอร์ตไทย)
  • In what country/location do you hope to pursue your education: เลือกประเทศที่ต้องการศึกษาต่อ
  • What is your desired field of study: เลือกสาขาวิชาที่ต้องการศึกษาต่อ
  • What is your level of study: เลือกระดับชั้นที่กำลังศึกษาอยู่หรือระดับการศึกษาสูงสุดที่เรียนจบมา
  • เมื่อกรอกข้อมูลในส่วนนี้ครบถ้วนแล้ว คลิกปุ่ม Continue

8. สร้าง Username และ Password สำหรับตัวเราเอง ซึ่งข้อมูลในส่วนนี้แนะนำว่าควรจดเก็บไว้ให้ดี เนื่องจากเราจะต้อง Log in ในภายหลังเพื่อสมัครสอบ เปลี่ยนวันสอบ ดูผลคะแนน หรือส่งผลคะแนนไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ เป็นต้น


การสร้าง Username แนะนำว่าให้กรอกเป็นภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็กให้หมด เนื่องจากง่ายต่อการจดจำและการเรียกใช้ในอนาคต หากมีชื่อซ้ำอยู่แล้วให้เปลี่ยนเป็นชื่ออะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องตั้งเป็นชื่อหรือนามสกุลจริงของเรา
กฏการสร้าง Username

  • ต้องมีตัวหนังสือไม่ต่ำกว่า 6 ตัวอักษร แต่ไม่เกิน 16 ตัวอักษร
  • สามารถใช้ได้เพียงพยัญชนะภาษาอังกฤษและ/หรือตัวเลข 0-9 เท่านั้น
  • ห้ามมีเครื่องหมายหรือสัญญลักษณ์โดยเด็ดขาด

กฏการสร้าง Password

  • ต้องมีตัวหนังสือไม่ต่ำกว่า 8 ตัวอักษร แต่ไม่เกิน 16 ตัวอักษร
  • ในรหัสผ่านจะต้องมีพยัญชนะภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่+พยัญชนะภาษาอังกฤษตัวพิมพ์เล็ก+ตัวเลข 0-9
  • รหัสผ่านจะต้องไม่เหมือนกับ Username หรือชื่อจริง หรือนามสกุลของตนเอง

9. Security Question: ในขั้นตอนนี้ผู้สมัครจะต้องเลือกชุดคำถามและคำตอบที่ตัวเองสามารถตอบได้ หากพบคำถามนี้ในอนาคต ซึ่งชุดคำถามนี้จะมีประโยชน์ในภายหลัง เมื่อผู้สมัครลืม Username หรือรหัสผ่าน ในตัวอย่างด้านล่าง ถามว่าสัตว์เลี้ยงตัวเลขของคุณชื่ออะไร คำตอบของตัวอย่างนี้คือ milo (แนะนำว่าคำตอบควรเป็นภาษาอังกฤษแบบตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดการสับสน) เมื่อกรอกข้อมูลในส่วนนี้ครบถ้วนแล้ว คลิกปุ่ม Continue

10. เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้แล้ว ระบบจะให้ตรวจสอบข้อมูลที่ท่านได้กรอกมาทั้งหมดอีกครั้ง หากมีจุดที่ต้องการแก้ไข ให้คลิกที่ Edit เพื่อย้อนกลับไปแก้ไขได้ แต่หากตรวจสอบแล้วถูกต้องและครบถ้วนสมบูรณ์ คลิกปุ่ม Confirm ก็จะเสร็จสิ้นขั้นตอนการสร้าง Username และ Password จากนั้นจึงสามารถลงทะเบียนสอบได้ในขั้นต่อไป


เท่านี้ เราก็พร้อมสำหรับการสมัคร TOEFL และจองวันสอบ TOEFL รวมถึงการชำระเงินแล้วค่ะ

เคล็ดลับการสอบ TOEFL ง่ายๆ ที่ไม่มีใครเคยบอกค่ะ



เรียบเรียงโดย : ผกากรอง ปากคลองตลาด

เนื่องจากการสอบ TOEFL เป็นการทดสอบผ่านระบบคอมพิวเตอร์ค่ะ  ดังนั้น พี่ผกากรองอยากจะแนะนำเคล็ดลับที่แสนจะง่ายดาย แต่ไม่มีใครบอก นั่นก็คือ น้องๆ ที่เตรียมสอบ TOEFL ทุกคนควรที่จะได้ทดลองทำข้อสอบ TOEFL ผ่านคอมพิวเตอร์ ซึ่งเลียนแบบมาจากข้อสอบจริงๆ ค่ะ


โดยน้องๆ อาจหาฝึกทำได้จากซีดีด้านหลังของหนังสือ TOEFL จากค่ายต่างๆค่ะ รวมทั้งผกากรองขอแนะนำให้ลองทำข้อสอบ TOEFL จากเว็บไซต์ ETS ด้วยนะค่ะเพื่อทำให้เกิดความคุ้นเคยให้มากที่สุดค่ะ ซึ่งสิ่งที่ยากในการทำข้อสอบ TOEFL ผ่านคอมพิวเตอร์ คือ การพิมพ์ภาษาอังกฤษด้วยคีย์บอร์ดค่ะในข้อสอบ TOEFL การเขียน (TOEFL Writing) และ การพูดอัดเสียงผ่านไมโครโฟน ในข้อสอบ TOEFL การฟัง (TOEFL Listening) ค่ะ

ดังนั้น พี่ผกากรองแนะนำว่า นอกเหนือจากการเตรียมตัว TOEFL ด้านวิชาการแล้ว ยังผู้สอบ TOEFL ยังต้องซ้อมการพิมพ์ผ่านคอมพิวเตอร์ให้ได้ทั้งความเร็วและความถูกต้องแม่นยำด้วยค่ะ รวมทั้ง สำหรับบางคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับการพูดอัดเสียงผ่านไมโครโฟนมาก่อน ซึ่งไม่เหมือนกับการคุยแบบเห็นหน้ากันจริงๆ จึงควรหมั่นฝึกซ้อมให้มากที่สุดนะค่ะเทคนิคการเตรียมสอบ TOEFL อีกอย่างคือ การเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมก่อนสอบ TOEFL ค่ะ เทคนิคนี้อาจจะดูเหมือนพื้นฐานธรรมดามากๆ นะค่ะ 


แต่อย่างไรก็ตามสิ่งนี้เป็นสิ่งจำเป็นมากในการเตรียมสอบทุกชนิด รวมทั้งการสอบ TOEFL ไม่แพ้เทคนิคอื่นๆ โดยผู้เตรียมสอบ TOEFL ทุกคนควรจะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีการออกกำลังกายสม่ำเสมอในช่วงการเตรียมสอบ TOEFL นะค่ะ หัวใจสำคัญที่สุดของเทคนิคนี้ ก็คือ การทำให้การเราไม่เหนื่อยมากเกินไปในช่วงการเตรียมสอบ TOEFL นะค่ะ ดังนั้นถ้าหากว่าเรารู้สึกว่า เราพักผ่อนนอนหลับไม่เพียงพอหรือเครียดเกินไป ผกากรองขอแนะนำให้ น้องๆที่เตรียมสอบ TOEFL ลองลดเวลาในการเรียน TOEFL และการทบทวน TOEFL ลงบ้าง ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ นะค่ะ แต่อย่าหยุดเลยนะค่ะ เดี๋ยวจะยิ่งแย่ค่ะ หรือ ลองปรับลดกิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นลง เทคนิคนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมากในช่วงใกล้การสอบ TOEFL ค่ะ

ค่าสอบ TOEFL เท่าไหร่กันหนออออ



เรียบเรียงโดย : ผกากรอง ปากคลองตลาด

ด้านล่างเป็นข้อมูลค่าใช้จ่ายในการสอบ TOEFL นะค่ะ ซึ่งข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ น้องๆ สามารถเช็คที่เว็บไซด์ http://www.ets.org/toefl/ นะค่ะ ส่วนการยกเลิกการลงทะเบียนจะเหมือนกับการเลื่อนวันทดสอบค่ะ คือ ต้องมีวันเหลือก่อนถึงวันสอบอย่างน้อย 3 วันไม่นับวันที่สอบ TOEFL และวันลงทะเบียน TOEFL สำหรับจำนวนเงินจะได้คืนครึ่งหนึ่งของค่าลงทะเบียนค่ะ




การยกเลิกผลคะแนน TOEFL

เมื่อทำการสอบ TOEFL เสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถทำการยกเลิกผลสอบ TOEFL ได้นะค่ะ แต่ควรทำการตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้ค่ะ

ไม่สามารถยกเลิกคะแนน TOEFL เพียงส่วนใดส่วนหนึ่งได้และไม่อนุญาตให้รับคะแนนส่วนที่เหลือค่ะ
ถ้ายกเลิกผลคะแนน TOEFL ไปแล้ว จะไม่มีรายงานส่งไปที่ใด ๆ ทั้งสิ้นไม่มีการคืนเงินไม่ว่ากรณีใด ๆ ค่ะ การยกเลิกคะแนน  TOEFL จะไม่มีการบันทึกใด ๆ ที่ส่งผลเสียต่อตัวผู้ขอค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการขอยกเลิกคะแนนสอบ  TOEFL ค่ะ

การขอคืนค่าคะแนน  TOEFL

หลังจากที่ร้องขอยกเลิกไปแล้ว มีขั้นตอนและเงื่อนไข ดังนี้ค่ะ

1. ต้องส่งเรื่องให้ถึงทาง EST อย่างช้าที่สุด ไม่เกิน 10 วันโดยนับจากวันที่เข้าสอบ  TOEFL
2. ติดต่อที่ EST Service โดยระบุรายละเอียดดังนี้

  • ชื่อและวันเดือนปีเกิด
  • เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก
  • เลขที่ลงทะเบียน (ในเอกสาร registration confirmation)

3. ค่าใช้จ่าย US$20
4. ระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 3 สัปดาห์ นับจากวันที่ทาง ETS ได้รับเรื่องค่ะ

การ Rescore TOEFL

สามารถร้องขอให้คำนวณคะแนน TOEFL ในส่วนของการเขียนและการพูดให้ใหม่ได้ ระยะเวลาที่สามารถขอรีสกอร์ต้องไม่เกิน 3 เดือนนับจากวันที่เข้าสอบ TOEFL และมีเงื่อนไขดังนี้ค่ะ

การขอรีสกอร์คะแนน  TOEFL จะทำได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้นค่ะ ถ้าขอรีสกอร์ทั้งสองส่วน คือ การเขียนและการพูด ทั้งสองส่วนจะดำเนินการแล้วเสร็จพร้อม ๆ กัน การขอรีสกอร์ในแต่ละส่วนมีค่าใช้จ่าย US$60 หากต้องการรีสกอร์ทั้งสองส่วนจะมีค่าใช้จ่าย US$120 การดำเนินการจะต้องกรอก TOEFL iBT Rescoring Request Form ให้เรียบร้อยค่ะ
ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 สัปดาห์นับจากวันที่ทาง ETS ได้รับฟอร์ม หลังจากดำเนินการเรียบร้อย ทาง ETS จะส่งรายงานคะแนน TOEFL ใหม่กลับมาให้ค่ะ

รับรองคะแนน TOEFL

ผู้สอบ TOEFL จะได้รับใบรายงานผลคะแนน TOEFL รวมทั้งหมด 5 ฉบับ ดังนี้ค่ะ

ฉบับแรกจะเป็นรายงานผล TOEFL ที่ส่งให้ผู้เข้าสอบ TOEFL ค่ะ
อีก 4 ฉบับ จะเป็นรายงานผลคะแนน TOEFL อย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้เข้าสอบ TOEFL สามารถเลือกว่าจะให้ทาง ETS ส่งตรงไปให้กับสถาบันหรือบริษัทใด โดยมีระยะเวลาในการจัดส่งประมาณ 15 วันหลังจากวันที่เข้าสอบ TOEFL ค่ะ หากต้องการมากกว่านี้ จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่ม US$17 ต่อ 1 ฉบับค่ะ เงื่อนไขในการได้รับใบรับรอง มีดังนี้ค่ะ (ต้องผ่านทั้ง 4 หัวข้อดังต่อไปนี้)

  • ตอบคำถามอย่างน้อยที่สุด 1 คำถามในส่วนของการอ่าน (Reading)
  • ตอบคำถามอย่างน้อยที่สุด 1 คำถามในส่วนของการฟัง (Listening)
  • เขียนอย่างน้อย 1 บทความ ในส่วนของการเขียน (Writing)
  • พูดอย่างน้อย 1 หัวข้อ ในส่วนของการพูด (Speaking)


กฏระเบียบการสอบ TOEFL เข้มจริงไหมอ่ะ



เรียบเรียงโดย : ผกากรอง ปากคลองตลาด

สำหรับขั้นตอนการปฏิบัติของการสอบ TOEFL นั้น แต่ละศูนย์สอบ TOEFL จะมีขั้นตอนที่เหมือนกันค่ะ เพื่อความยุติธรรม สำหรับผู้เข้าสอบ TOEFL ทุกท่านค่ะ โดยที่ทุกแห่งจะมีมาตรฐานเดียวกันหมด ซึ่งเป็นดังต่อไปนี้



1. ผู้คุมสอบ TOEFL หรือเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้กำหนดที่นั่งสอบ TOEFL ให้แก่ผู้สอบ TOEFL โดยผู้สอบ TOEFL จะไม่มีสิทธิ์เลือกที่นั่งสอบ TOEFL เองค่ะ 
2. ผู้สอบ TOEFL จะต้องถึงสถานที่สอบ TOEFL ไม่เกินเวลาที่ระบุไว้ในบัตรประจำตัวผู้สอบ TOEFL นะคะ เพราะหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ส่งแบบทดสอบ TOEFL เข้ามาในคอมพิวเตอร์แล้ว จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสอบ TOEFL โดยเด็ดขาดค่ะ
3. ก่อนจะเข้าสอบ TOEFL ต้องมาลงทะเบียนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่หน้าห้องก่อน โดยการป้อนข้อมูลส่วนตัว รวมทั้งรหัสผ่านให้ถูกต้อง และถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน เพราะฉะนั้น จะไม่มีการให้ใครมาสอบ TOEFL แทนได้ หลังจากที่ได้เข้าห้องสอบ TOEFL แล้ว จะไม่สามารถออกจากห้องสอบ TOEFL ได้อีกและเมื่อการสอบ TOEFL สิ้นสุดลง ต้องนั่งอยู่กับที่จนกว่าผู้คุมสอบ TOEFL จะอนุญาต ให้ออกจากห้องสอบ TOEFL ได้ค่ะ 
4. ในระหว่างการสอบ TOEFL จะไม่มีการหยุดพัก แต่จะมีช่วง Break ให้พักผ่อน 5 นาที นอกจากช่วง Break ถ้าผู้เข้าสอบ TOEFL ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ผู้คุมสอบ TOEFL ได้แจ้งให้ทราบก่อนการสอบ TOEFL อาจจะถูกไล่ออกจากห้องสอบ TOEFL หรือถูกยกเลิกคะแนนสอบ TOEFL ได้ค่ะ
5. ทางผู้จัดสอบ TOEFL จะไม่ทำการตรวจให้คะแนน สำหรับการสอบ TOEFL และจะไม่คืนค่าสอบ TOEFL ให้แก่ผู้ใดในกรณีต่อไปนี้ค่ะ

  • การพยายามเข้าสอบ TOEFL แทนผู้อื่นค่ะ
  • ได้รับการช่วยเหลือ หรือให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เข้าสอบ TOEFL ท่านอื่นค่ะ
  • ไม่ปฏิบัติตามที่ผู้คุมสอบ TOEFL แนะนำค่ะ
  • อ่านและทำข้อสอบ TOEFL ในส่วนอื่น ในขณะที่อนุญาตให้ทำอีกส่วนหนึ่งหรือพยายามจะทำข้อสอบ TOEFL ต่อเมื่อหมดเวลาแล้วค่ะ
  • นำพจนานุกรม สมุดจด หนังสือ เศษกระดาษ นาฬิกาปลุก โทรศัพท์มือถือ เพจเจอร์ เครื่องช่วยฟัง หรืออุปกรณ์ถ่ายภาพใด ๆ เข้าห้องสอบ TOEFL ค่ะ
  • นำบุหรี่ หมากฝรั่ง ลูกอม อาหาร และเครื่องดื่มเข้ามาในห้องสอบ TOEFL ค่ะ 
  • ออกจากห้องสอบ TOEFL โดยไม่ได้รับอนุญาติค่ะ
  • ทำการจดคำถาม หรือคำตอบ TOEFL หรือคัดลอกสมุดคำถาม TOEFL ค่ะ

ผลสอบ TOEFL เอาไปใช้อย่างไรหน้อออ



เรียบเรียงโดย: ผกากรอง ปากคลองตลาด



สำหรับค่าบริการสอบ TOEFL ที่น้องๆ ได้ชำระไปแล้วนั้นเป็นค่าบริการที่ครอบคลุมถึง

  • รายงานผลสอบ TOEFL แบบกระดาษ 1 ฉบับและรายงานผลสอบ TOEFL แบบ Online 1 ครั้ง
  • รายงานผลสอบ TOEFL อย่างเป็นทางการที่ ETS จะจัดส่งไปให้กับสถาบันการศึกษา หรือ องค์กรต่างๆ ที่น้องได้เลือกไว้ตอนสมัครสอบ TOEFL ค่ะ ส่งได้สูงสุด 4 แห่ง (นอกจากนั้น น้องๆ ต้องจ่ายเงินเพิ่ม $17 ต่อรายงานค่ะ)

ผลสอบ TOEFL ไม่มีคะแนนผ่านหรือตกนะค่ะ โดยสถาบันหรือมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะกำหนดคะแนนที่ต้องการเอง ซึ่งคะแนน TOEFL สามารถใช้ได้ 2 ปีหลังจากวันที่ทดสอบค่ะ คะแนนสอบ TOEFL ของน้องๆ จะได้รับการใส่ข้อมูลเพิ่มในระบบ Online ภายในระยะเวลา 15 วันทำการ หลังจากวันที่สอบ TOEFL (โดยอาจมีข้อยกเว้นบางประการ) หลังจากนั้น จะทำการจัดส่งออกไปให้ผู้รับที่ท่านเลือกไว้ โดยน้องๆ สามารถดูคะแนนสอบ TOEFL ของน้องในแบบ Online ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ค่ะ แต่น้องต้องมี user name และ password ในการเข้าดูนะค่

สมัครสอบ TOEFL มันมีกี่แบบกันเนี่ยยย



เรียบเรียงโดย: ผกากรอง ปากคลองตลาด

ในการสมัครสอบ TOEFL นั้นน้องๆ ควรทำการสมัครสอบ TOEFL ล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนนะค่ะ เนื่องจากสถานที่สอบ TOEFL อาจจะเต็มหรืออาจจะไม่มีวันและเวลาที่สะดวกสำหรับน้องๆ ค่ะ โดยวิธีการสมัครสอบ TOEFL ที่พี่ผกากรองแนะนำมี 2 วิธีค่ะ


การสมัครสอบ TOEFL แบบ Online ค่ะ ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุดและสามารถลงทะเบียนได้ตลอดเวลาค่ะ นอกจากนั้นยังเป็นวิธีการที่อาจจะก่อให้เกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดด้วยค่ะ โดยสามารถลงทะเบียนสอบได้ที่นี่ website ของ ETS นะค่ะ และสามารถดาวน์โหลดคู่มือการลงทะเบียนสมัครสอบได้ในเวบไซต์เลยค่ะ สำหรับการชำระค่าสมัครสอบ TOEFL สามารถทำได้โดยใช้บัตรเครดิตของ Visa, Mastercard, American Express, JCB และ Discover ค่ะ


การสมัครสอบ TOEFL ทางโทรศัพท์ ค่ะ สำหรับการลงทะเบียนสอบ TOEFL ผ่านโทรศัพท์เพื่อที่จะทำการสอบ TOEFL ในศูนย์สอบ TOEFL ในประเทศไทยนั้น สามารถลงทะเบียนสอบ TOEFL ได้โดยโทรศัพท์ไปที่ Registration Phone: 60-3-7628-3333 ซึ่งเป็นศูนย์สอบที่ประเทศมาเลเซียค่ะ (ศูนย์กลางของศูนย์สอบ TOEFLในประเทศแถบนี้) อย่างไรก็ดีก่อนที่จะโทรศัพท์เพื่อลงทะเบียนสอบ TOEFL นั้น ควรที่จะเตรียมข้อมูลที่ต้องใช้โดยเช็คจากใบสมัครให้ละเอียดก่อนนะค่ะ




การสมัครสอบ TOEFL ในประเทศไทย

ปัจจุบันการสมัคร TOEFL เพื่อสอบในประเทศไทย สามารถกระทำได้ดังนี้นะค่ะ

1. การสมัครสอบ TOEFL ผ่านทางอินเตอร์เน็ต บนหน้าเว็บไซต์  www.ets.org (ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็ว และ สะดวกที่สุด โดยสามารถสมัครได้ตลอดเวลา) ต้องสมัครสอบ TOEFL ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันค่ะ โดยจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต Visa, Master, หรือ AMEX ทางจดหมายส่งไปที่มาเลเซีย โดยใบสมัครสอบ TOEFL ต้องได้รับก่อนวันสอบ TOEFL อย่างน้อย 4 อาทิตย์ค่ะ

2. การสมัครสอบ TOEFL โดยตรงที่ประเทศมาเลเซีย โดยแบ่งเป็น 2 วิธี ดังนี้ค่ะ

  • การใช้บัตรเครดิตและโทรสมัครสอบ TOEFL สำหรับผู้ที่ต้องการสอบ TOEFL ที่ศูนย์สอบ TOEFL ภายในประเทศไทย ต้องโทรไปที่ Regional Registration Center – RRC ซึ่งประจำอยู่ที่ประเทศมาเลเซียอย่างน้อย 3 วันก่อนวันที่ต้องการจะสอบ TOEFL นอกจากนี้ ผู้สมัครสอบ TOEFL ต้องมีข้อมูลของบัตรเครดิตที่ถูกต้องของบัตร VISA, MasterCard หรือ American Express จากนั้นผู้สมัครจะได้รับหมายเลขยืนยันการสมัคร หรือ Appointment Confirmation Number ซึ่งผู้สมัครสอบ TOEFL ควรเตรียมจดบันทึกไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ผู้สมัครสอบ TOEFL ยังต้องตอบคำถามทั่วไป ซึ่งสามารถดูตัวอย่างคำถามได้จากแบบฟอร์มการสมัครสอบนานาชาติ หรือ International Test Scheduling Form

  • การกรอกแบบฟอร์มการสมัครสอบนานาชาติ (หรือ International Test Scheduling Form) สำหรับผู้ที่ต้องการสอบ TOEFL ในประเทศไทย แต่ไม่ต้องการโทรสมัคร สามารถใช้วิธีการกรอกแบบฟอร์มได้ พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรเครดิต หรือเอกสารการชำระเงินค่าสอบ TOEFL แล้วจัดส่งทางไปรษณีย์หรือส่งโทรสารไปยัง RRC ได้ โดยที่ RRC ต้องได้รับเอกสารครบถ้วนและถูกต้องเป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ก่อนวันที่ต้องการสอบ TOEFL วันแรก แต่ถ้าต้องการส่งโทรสารพร้อมรายละเอียดของบัตรเครดิต ต้องส่งล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน การกรอกแบบฟอร์มการสมัครสอบ TOEFL นี้ ผู้สมัครสามารถเลือกวันสอบ TOEFL ที่ต้องการได้ 5 วัน และเลือกศูนย์สอบ TOEFL สำรองได้อีก 1 แห่ง อย่างไรก็ดี การพิจารณาจัดวันสอบ TOEFL ให้กับผู้สมัครจะให้ความสำคัญกับศูนย์สอบ TOEFL หลักก่อนและพิจารณาจากวันสอบ TOEFL ที่เลือกไว้จากอันดับที่ 1 ถึง 5 ตามลำดับค่ะ ในกรณีที่ไม่สามารถสำรองที่ให้กับการสอบ TOEFL ในวันใดวันหนึ่งสำหรับศูนย์สอบ TOEFL หลักได้ จึงจะพิจารณาจากศูนย์สอบ TOEFL สำรองที่ได้เลือกได้ โดยพิจารณาจากวันสอบ TOEFL ที่เลือกไว้จากอันดับ 1 ถึง 5 ตามลำดับเช่นกันค่ะ เมื่อสามารถสำรองวันสอบ TOEFL และศูนย์สอบ TOEFL ให้กับผู้สมัครได้แล้ว ทาง RRC จะจัดส่งหมายเลขยืนยันการสมัคร TOEFL วันสอบ TOEFL เวลารายงานตัว ข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์สอบ TOEFL และเอกสารส่วนตัวที่ต้องนำติดตัวไปในวันสอบ TOEFL ไปให้ยังผู้สมัครทางโทรสาร ไปรษณีย์หรือ e-mail ในกรณีที่ผู้สมัครยังไม่ได้รับหมายเลขยืนยันการสมัคร สามารถโทรไปตรวจสอบกับ RRC ได้ โดยต้องโทรติดต่ออย่างน้อย 3 วันก่อนวันที่ต้องการสอบ TOEFL วันแรก สำหรับประเทศไทย ผู้ที่ต้องการสอบต้องสมัคร TOEFL ล่วงหน้าตามกำหนดเวลา ไม่สามารถเดินเข้าไปสมัครสอบ TOEFL และเข้าสอบ TOEFL ในวันนั้นๆ ได้เหมือนในประเทศสหรัฐอเมริกา 

การสอบ TOEFL ในประเทศไทยจะต้องสมัครผ่านสำนักงาน RRC สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีศูนย์ประจำอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 
Regional Registration Center – RRC  (Region 6)
Thomson Prometric
PO Box 12964 
50794 Kuala Lumpur
Malaysia

Courier Address (ที่อยู่สำหรับการจัดส่งเอกสาร) 
Prometric, B.V. Branch Office 
(Co.No 993721-U)
Suite 21A-15-1, Faber Imperial Court, 
Jalan Suitan Ismail
50250 Kuala Lumpur, Malaysia

Registration Phone: 60-3-7628-3333 
E-mail: searrc@thomson.com 
Fax: 60-3-7628-3366

3. การสมัครสอบ TOEFL ผ่านศูนย์ศึกษาต่อ/ศูนย์ภาษา 
หากผู้สมัครสอบ TOEFL ไม่สะดวกที่จะติดต่อสำนักงาน RRC ด้วยตนเองนะคะ  สามารถสมัครผ่านศูนย์ศึกษาต่อ AES (Thailand) และศูนย์ภาษา  ดังนี้ค่ะ  

  • ศูนย์เมืองทองธานี ที่บริษัท Abroad Education Services (Thailand) โทร. 0 2574 5669, 0 2574 4079 
  • ศูนย์อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่บริษัท WTC Center โทร. 0 2644 5560 – 1 

หมายเหตุ  ค่าสมัครสอบ TOEFL 140 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าบริการ 30 ดอลลาร์สหรัฐ


เจาะลึก...คะแนน TOEFL กันดีกว่า



เรียบเรียงโดย : ผกากรอง ปากคลองตลาด

วันนี้ผกากรองจะมาให้ความรู้เรื่องข้อสอบ TOEFL เพิ่มเติมค่ะว่ามีอะไรบ้างในการสอบและคะแนน TOEFL แต่ละส่วนได้มาอย่างไร การสอบ TOEFL ถูกออกแบบเพื่อใช้วัดความเข้าใจของบุคคลและการใช้ภาษาอังกฤษในระดับอุดมศึกษา การตัดสินใจใช้การสอบ TOEFL แบบ Internet-Based Tests หรือการสอบแบบ Paper-Based Tests จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละศูนย์การสอบ ในการลงทะเบียนสอบให้ผู้สอบติดต่อกับศูนย์สอบที่ใกล้ที่สุด   ทั้งนี้ปัจจุบันมีศูนย์สอบอยู่มากกว่า 4,500 ศูนย์ทั่วโลก ข้อสอบ TOEFL และคะแนน TOEFL มีรายละเอียดตามข้อมูลด้านล่างนะค่ะ




TOEFL Reading : คะแนนคิดเป็น 25% ของการสอบ TOEFL ทั้งหมด
ระยะเวลา :  60-100 นาที
การสอบ TOEFL ประกอบด้วย : การอ่าน 3-5 บทความ และตอบคำถาม 12-14 ข้อต่อบทความ
คะแนน TOEFL Reading: อยู่ระหว่าง 0-30 คะแนน แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
  • คะแนน TOEFL Reading อยู่ระหว่าง 0-14 คะแนน =  Low
  • คะแนน TOEFL Reading อยู่ระหว่าง 15-21 คะแนน =  Intermediate
  • คะแนน TOEFL Reading อยู่ระหว่าง 22-30 คะแนน =  High

การทดสอบ TOEFL ส่วนของการอ่านจะมีบทความให้อ่านและทำแบบทดสอบระหว่าง 3-5 บทความความยาวประมาณ 700 คำ และตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับบทความ   บทความทั้งหมดจะมีเนื้อหาเชิงวิชาการ ภายหลังจากอ่านเนื้อหาภายในบทความ  ผู้ทำแบบทดสอบ TOEFL จะต้องตอบคำถามในชุดของคำถามเพื่อทดสอบความเข้าใจ คำถามจะเกี่ยวเนื่องกับ เนื้อหาหลัก แนวคิด ข้อมูลอ้างอิง ข้อมูลหลักคำศัพท์ และข้อมูลสำคัญๆ  ประเด็นหลักของเนื้อหาที่ต้องการไม่ใช่ความรู้ที่มีอยู่ก่อน แต่เป็นสิ่งที่ได้พบในการทดสอบจริงๆ ค่ะ


TOEFL Listening : คะแนนคิดเป็น 25% ของการสอบ TOEFL ทั้งหมด
ระยะเวลา :  60-90 นาที
การสอบ TOEFL ประกอบด้วย : การฟัง 6-9 บทความ และตอบคำถาม 5-6 ข้อต่อบทความ
คะแนน TOEFL Listening: อยู่ระหว่าง 0-30 คะแนน แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ

  • คะแนน TOEFL Listening อยู่ระหว่าง 0-14 คะแนน =  Low 
  • คะแนน TOEFL Listening อยู่ระหว่าง 15-21 คะแนน =  Intermediate
  • คะแนน TOEFL Listening อยู่ระหว่าง 22-30 คะแนน =  High

ในการสอบ TOEFL ส่วนนี้ประกอบด้วยการฟัง 6 บทความ แต่ละบทความมีความยาว 3-5 นาทีและการตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับบทความ  บทความจะมีเนื้อหาเชิงวิชาการ  โดยทั่วไปจะประกอบด้วยการสนทนาของนักศึกษาหรือบรรยากาศการเข้าฟังการบรรยายในชั้นเรียน และการอภิปราย ในเทปบันทึกเสียงที่ผู้สอบได้ฟังนี้ผู้สอบ TOEFL จะได้รับฟังเพียงครั้งเดียวแต่ผู้สอบ TOEFL จะได้รับอนุญาตให้จดบันทึกจะขณะฟังได้ แต่ละบทสนทนาจะเชื่อมโยงกับคำถาม 5-6 ข้อเพื่อตอบคำถามที่จะประเมินความสามารถในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับ ใจความสำคัญ รายละเอียดหลักๆ จุดมุ่งหมาย และเป้าหมาย และทัศนคติของผู้พูดค่ะ


TOEFL Speaking : คะแนนคิดเป็น 25% ของการสอบทั้งหมด

ระยะเวลา :  20 นาที
การสอบ TOEFL ประกอบด้วย : 6 ภารกิจและ 6 คำถาม
คะแนน TOEFL Speaking: อยู่ระหว่าง 0-30 คะแนน แบ่งออกเป็น 4 ระดับ คือ

  • คะแนน TOEFL Speaking อยู่ระหว่าง 0-9 คะแนน =  Weak 
  • คะแนน TOEFL Speaking อยู่ระหว่าง 10-17 คะแนน =  Limited
  • คะแนน TOEFL Speaking อยู่ระหว่าง 18-25 คะแนน =  Fair
  • คะแนน TOEFL Speaking อยู่ระหว่าง 26-30 คะแนน =  Good


ใน TOEFL ส่วนนี้ประกอบด้วย 6 ภารกิจ  การพูดแบบอิสระ 2 ส่วน และการพูดแบบผสมผสาน 4 ส่วน ในส่วนของการพูดแบบอิสระ  ผู้ทำการทดสอบ TOEFL จะตอบคำถามในหัวข้อที่เกี่ยวพันธ์กัน ผู้ทำการทดสอบ TOEFL จะประเมินความสามารถโดยการตอบคำถามโดยทันทีและและต้องถ่ายทอดความคิดที่ชัดเจนและสอดคล้องกัน โดยการทดสอบจะเป็นสถานการณ์เชิงวิชาการในภารกิจการผสมผสาน  ผู้ทำแบบทดสอบ TOEFL ต้องการทักษะที่เป็นประโยชน์และตอบคำถามจากข้อมูลจากการอ่านและการฟัง  และใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อเตรียมตัวก่อนที่จะเริ่มต้นพูดค่ะ


TOEFL Writing : คะแนนคิดเป็น 25% ของการสอบทั้งหมด

ระยะเวลา :  55 นาที
การสอบ TOEFL ประกอบด้วย : 2 ภารกิจและ 2 คำถาม
คะแนน TOEFL Writing: อยู่ระหว่าง 0-30 คะแนน แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
  • คะแนน TOEFL Writing อยู่ระหว่าง 1-16 คะแนน =  Limited
  • คะแนน TOEFL Writing อยู่ระหว่าง 17-23 คะแนน =  Fair
  • คะแนน TOEFL Writing อยู่ระหว่าง 24-30 คะแนน =  Good

ในส่วนนี้จะประเมินความสามารถของผู้ทำแบบทดสอบจากการเขียนเชิงวิชาการ  การทดสอบประกอบด้วย 2 ภารกิจ แบบผสมผสาน 1 ภารกิจ และแบบอิสระอีก 1 ภารกิจ ในการสอบแบบผสมผสาน  ผู้สอบ TOEFL จะอ่านบทความและฟังเทปบันทึกเสียงในหัวข้อเดียวกัน   พวกเขาต้องเขียนสรุปแนวคิดหลักของบทความที่อ่านและเชื่อมโยงกับเทปที่ได้ฟัง ในส่วนของการเขียนแบบอิสระ  ผู้สอบ TOEFL ต้องเขียนเรียงความ แสดงความคิดเห็นในหัวข้อที่กำหนดให้ค่ะ

คะแนน TOEFL ของทั้ง 4 ส่วนจะถูกนำมารวมกันเพื่อประเมินเปรียบเทียบเป็นคะแนนรวมทั้งหมด   ไม่มีคะแนนไม่ผ่านหรือคะแนนไม่ดี  แต่สำหรับการสมัครเข้าศึกษาต่อและการสมัครงานยังต้องการคะแนนในระดับที่แต่ละที่กำหนดค่ะ

สำหรับการสอบ 
TOEFL แบบ Paper-Based Tests คะแนนจะอยู่ระหว่าง 200-677  และระดับคะแนน 600 ถือว่าอยู่ในระดับดีมากค่ะ

สำหรับการสอบ 
TOEFL แบบ Internet-Based Tests คะแนนจะอยู่ระหว่าง 0-120  และระดับคะแนน 97 จะพิจารณาว่าอยู่ในระดับดีมากค่ะ